วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ซื้อบ้านทาวน์เฮ้าส์ก่อน ค่อยผ่อน หรือ เก็บเงินก่อน ค่อยซื้อบ้านทาวน์เฮ้าส์ ดี?

ซื้อบ้านทาวน์เฮ้าส์ก่อน ค่อยผ่อน หรือ เก็บเงินก่อน ค่อยซื้อบ้านทาวน์เฮ้าส์ ดี?


คอนโดติดรถไฟฟ้า
บล็อก รีวิวคอนโดติดรถไฟฟ้า ขอขอบคุณ ภาพจาก lh.co.th
หากเรามองแบบทั่ว ๆ ไปแล้ว ดูเหมือนว่าค่านิยมการซื้อบ้านหรือบ้านทาวน์เฮ้าส์ก่อนแล้วค่อยทยอยผ่อนนั้น จะเป็นทางเลือกที่คนส่วนมากนิยมทำกันทั่วไป นั่นเป็นเพราะว่า โดยปกติแล้วบ้านหรือบ้านทาวน์เฮ้าส์จัดเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่หากเราจะรอซื้อเงินสดละก็ มูลค่าของบ้านสูงเกินจะเอื้อมถึงแน่นอน อีกทั้งในการเก็บเงินสดให้ได้มูลค่าหลักล้านนั้นก็ ไม่ได้เป็นเรื่องที่ง่ายนักเลย แต่ก็ไม่ได้หมายถึงว่าการเก็บเงินก่อน และค่อยซื้อบ้านจะเป็นทางเลือกที่ผิดหลอก แต่ในทางกลับกันก็อาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับใครหลายคนเช่นกัน นั่นเป็นเพราะว่า ดอกเบี้ยของสินเชื่อบ้านนั้นสูงมาก และอาจสูงกว่า 2 เท่าของราคาบ้านด้วยซ้ำ เช่น ซื้อบ้านในราคา 5 ล้านบาท แต่หากผ่อนแบบปกติไม่มีการรีไฟแนนซ์ หรือไม่โปะเงินต้น ซึ่งผู้ซื้อจะต้องจ่ายยอดถึง 11 ล้านบาทเลย เท่ากับได้บ้านสองหลังแต่จ่ายเพียงหลังเดียวเท่านั้น

ถ้าหากมีศักยภาพเพียงพอที่จะเก็บเงินได้ไวเรา ก็อาจไม่จำเป็นต้องเป็นหนี้เยอะ แถมการที่เราเป็นหนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จะต้องเสียเวลาติดต่อดำเนินการยุ่งยากไม่น้อยเลยทีเดียว

ในการตัดสินใจว่าเราจะเป็นหนี้ก่อน หรือเราจะค่อย ๆ เก็บเงินไป จึงอาจจะขึ้นอยู่กับวิถีชีวิต และความจำเป็น โดยศักยภาพทางการเงินของในแต่ละบุคคลนั้น ไม่มีทางเลือกไหนถูกผิดแน่นอน มีแต่เหมาะสมหรือไม่เท่านั้น โดยระบบการเงินในทุกช่องทางก็ต่างออกแบบมาเพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับคนเฉพาะกลุ่มเท่านั้นเองค่ะ

จะว่าไปแล้วทั้งใน 2 กรณีนี้ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของตัวเลือกเท่านั้นเอง ยังมีตัวเลือกอื่น ๆ ให้เลือกให้เห็นอีกมาก เช่น บางคนก็เลือกที่จะซื้อที่ดินไว้ก่อน แล้วทิ้งไว้ 4-5 ปี จึงจะคิดสร้างบ้าน หรือแม้เดิมทีที่ดินอาจจะตั้งอยู่ในทำเลที่ไม่สะดวกเลย แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปนานก็ได้เกิดความเจริญค่อย ๆ เข้าถึง และมูลค่าที่ดินย่อมสูงขึ้นอีกด้วย เราอาจแบ่งขายที่ดินแล้วก็นำกำไรส่วนนั้นมาใช้ในสร้างบ้าน เสมือนได้บ้านฟรีเลย

“เช่าตลอดชีพ ไม่คิดจะซื้อ” เราอาจเคยเห็นกรณีนี้ ก็จะเป็นอีกมุมมองหนึ่งที่น่าสนใจ โดยผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ได้คิดเช่าบ้านตลอดชีพ โดยไม่คิดจะซื้อ นั้นเพราะหากนำตัวเลขทางการเงินมาวิเคราะห์แล้ว สมมุติเทียบมูลค่ากับบ้านแล้ว หลังละ 5 ล้านบาท แต่หากผ่อนต้องจ่ายเดือนละ เดืนประมาณ 3 หมื่นบาท รวมยอดแล้ว 30 ปีก็เป็นเงิน 11 ล้านบาท โดยผู้คนบางกลุ่มจึงคิดว่า ถ้าหากเขาเช่าบ้านเดือนละ 15,000 บาท ก็จะเท่ากับ เช่าปีละ 1.8 แสนบาท นั่นก็หมายถึงว่า เขาสามารถเช่าบ้านได้นานถึง 61 ปี และแถมยังจ่ายต่อเดือนน้อยกว่าอีกด้วยซ้ำไป

ถ้าหากคุณกำลังอยู่ในวัย 25 ปีขึ้นไป ซึ่งตัวเลข 61 ปี ก็เป็นตัวเลขที่น่านำมาคิดทบทวน ก็เพราะโดยเฉลี่ยแล้ว มนุษย์เราก็มีชีวิตกันเพียง 70 ปีเท่านั้น เมื่อตัดอายุช่วงวัยเรียนซึ่งได้มีพ่อแม่คอยเลี้ยงดู และชีวิตเราก็จะเหลือค่าเฉลี่ยเพียง 50 ปี เท่านั้น การเช่าบ้านมูลค่า 15,000 ต่อเดือน ก็จึงเป็นตัวเลขที่พอเพียงต่อการอยู่และอาศัยในช่วงที่ชีวิตที่เหลือแล้ว

ข้อดี ก็คือคุณจะสามารถเปลี่ยนบ้านใหม่ได้เรื่อย ๆ และคุณสามารถย้ายสถานที่ได้ตามที่คุณต้องการ และคุณไม่ต้องวิตกกังวลกับทำเลที่ถูกทิ้งร้างไว้ และไม่จำเป็นต้องไปเสียค่าบำรุงรักษาบ้านเลยค่ะ เพราะหน้าที่นี้ก็เป็นของผู้ให้เช่ารับผิดชอบไป สุดท้ายแล้วเราทุกคนก็ต่างไม่ได้เป็นเจ้าของทรัพย์สินใด ๆ เลยค่ะ

โดยเฉพาะยุคนี้แล้ว เป็นยุคที่ผู้คนโสดมากขึ้นเรื่อยๆ อยู่เพียงลำพังมากขึ้น และไม่รู้จะเก็บบ้านไว้ให้ใครอีก เช่าตลอดชีพก็จึงกลายเป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างจะมีอิสระมากกว่าตัวเลือกอื่น ๆ เลย แต่ในข้อดีก็ต่างจะมีข้อเสียอยู่เสมอ โดยจะเลือกวิธีไหน อยู่ที่ใจต้องการของเรา

ข้อสรุปที่ดีที่สุดก็ยังไม่สามารถเลือกได้ เพราะในแต่ละคนก็มีความต้องการที่ต่างกันไป ซึ่งในบางคนต้องไปทำงานที่ต่างๆ ก็อาศัยการเช่าเป็นรายเดือน ไม่ว่าจะเช่าบ้านทาวส์เฮ้าส์ คอนโดติดรถไฟฟ้า หรือบ้านต่างๆ ก็จะเป็นอะไรที่คุ้มกว่า หรือบ้านคนที่มีทายาทต่อไป และทำกิจการหรือธุรกิจในพื้นที่นั้นก็ควรจะสร้างหรือทำการซื้อเอง เพราะเรามีที่ทำมาหากินเป็นถิ่นฐานแล้ว แต่ก็ควรมาดูอีกว่าจะเก็บเงินเพื่อสร้างเลยหรือเราจะค่อยๆ ผ่อนเอาหลังจากซื้อแล้ว ซึ่งอันนี้ก็แตกต่างกันแล้วแต่ความคิดของแต่ละคน ซึ่งการจะลงมือทำอะไรนั้นก็ควรจะหาข้อมูลให้ดีก่อน เช่น ถ้าคิดจะกู้ ควรจะดูว่าดอกเบี้ยเท่าไหร และจะใช้เวลากี่ปี หรือคนคิดจะเก็บก่อนก็ควรจะดูจากเศรษฐกิจในช่วงนั้นด้วยว่าเป็นยังไง สามารถเก็บได้มั้ย หรือราคาของการซื้อบ้านจะมีราคาที่สูงขึ้นอีกมากแค่ใหนในอนาคต เป็นต้น ซึ่งที่จะขอแนะนำที่สุดคือการศึกษาหาความรู้ให้ดีก่อนจะลงทำอะไร จะได้รับมือกับเหตุไม่คาดคิดได้ทัน และก็ขอให้ทุกคนได้บ้านตามที่หวังกันนะค่ะ

บล็อกรีวิวคอนโดติดรถไฟฟ้า ขอขอบคุณเนื้อหาบางส่วนจาก banidea.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น