วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ไอคอนสยาม ปล่อยโครงการคอนโดหรู สุดแพง เริ่มต้นที่ 35 ล้านบาท

ไอคอนสยาม ปล่อยโครงการคอนโดหรู สุดแพง เริ่มต้นที่ 35 ล้านบาท คอนโดติดรถไฟฟ้าชิดซ้ายไปเลย



คอนโดติดรถไฟฟ้า
ขอบคุณภาพจาก ptcdn.info/


"ไอคอนสยาม" ได้ประกาศเปิดขายคอนโดสุดหรู "เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียลเต็ล กรุงเทพฯ" บริเวณริมแม่น้ำ เจ้าพระยา มูลค่ากว่า 9 พันล้าน โดยทุบสถิติราคาคอนโดที่แพงสุด 3.5 แสนต่อตร.ม. ของ "เพนท์เฮาส์" ทีมีขนาด 380 ตร.ม. ราคา 209 ล้าน และพร้อมผนึกยักษ์อสังหาฯจีน ในกลุ่มควีนแลนด์ ที่ผุดโครงการมิกซ์ยูส ที่พัทยา มูลค่ากว่า 3 หมื่นล้าน คาดว่าเปิดตัวโครงการต้นปีหน้านี้ 

โครงการไอคอนสยามนี้ นับเป็นโครงการแห่งศูนย์การค้าคอนโดหรู บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนพื้นที่กว่า 50 ไร่ ในย่านเจริญนคร ที่ได้มีมูลค่าการลงทุนสูงมากถึง 5 หมื่นล้านบาทเลยทีเดียว โดยยังเป็นความร่วมมือทางธุรกิจ ระหว่าง 3 ยักษ์ใหญ่ธุรกิจของในไทย ได้แก่ กลุ่ม สยามพิวรรธน์ รวมถึงแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น และรวมถึงเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ด้วย โดยในการกำหนดเปิดบริการปี 2560 แลนด์มาร์ค ที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทำการผลักดันให้กรุงเทพ เป็นจุดหมายที่น่ามาเยี่ยมเยือนแห่งหนึ่งของโลกเลย 

ยังมีการคาดกันอีกว่าว่าระหว่างปี 2555-2563 จะได้มีโครงการค้าปลีก ของอสังหาริมทรัพย์ โรงแรมต่างๆ ได้เกิดขึ้นริมแม่น้ำ เจ้าพระยา ไม่น้อยกว่า 30 แห่งแน่นอน รวมมูลค่ากว่าคงกว่า 1.12 แสนล้านบาทเลยทีเดียว 

ในล่าสุด นางสาวทิพาภรณ์ เจียรวนนท์ ผู้เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของบริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้ให้ข้อมูลในฐานะกรรมการและประธานบริหาร บริษัทใหม่คือ ดิ ไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้พร้อมจะเปิดขายโครงการ เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียลเต็ล กรุงเทพ แล้ว ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียม ที่มีระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ บริเณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บริหารโดยเชน แมนดาริน โอเรียลเต็ล เป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลย ซึ่ง ได้เพิ่มจำนวนเงินลงทุนเป็น 9,000 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นอีก 2,000 ล้านบาท 

ซึ่งโดยได้ประกาศเปิดตัวพร้อมกันกับ อีก 2 เมือง คือ ในฮ่องกง และลอนดอน ซึ่งจะถือเป็นเมืองแหล่งที่พักอาศัยระดับสุดหรูหราของโลก ที่กำหนดเปิดขายในวันที่ 29 ต.ค.2558 นี้ 

โดยโครงการคอนโดมิเนียมสุดหรู เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียลเต็ล กรุงเทพ นี้ มีลักษณะเป็นอาคารสูง 52 ชั้น จำนวน 146 ยูนิต และตัวอาคารตั้งอยู่บนพื้นที่โครงการไอคอนสยาม โดยในพื้นที่ของโครงการไอคอนสยาม จะประกอบด้วย โครงการที่พักอาศัยสุดหรูอีกหนึ่งโครงการ นั้นก็คือ แมกโนเลีย วอเตอร์ฟร้อนท์ เรสซิเดนซ์ ที่สูง 70 ชั้น 

สำหรับขนาดของห้องพักอาศัยนั้นเริ่ม ตั้งแต่ 130-230 ตารางเมตร และราคาขายเริ่มต้นที่ 3.5 แสนบาทต่อตารางเมตรหรือราคาอยู่ 45.5 ล้านบาท ต่อยูนิต ซึ่งก็นับว่าเป็นราคาขายคอนโดมิเนียมที่สูงที่สุดในกรุงเทพขณะนี้เลย 

ส่วนห้องเพนท์เฮ้าส์ และดูเพล็กซ์เพนท์เฮ้าส์นั้น ขนาดตั้งแต่ 380-710 ตารางเมตร โดยราคาขายเริ่มต้น 5.5 แสนบาทต่อตารางเมตร และในทุกยูนิตสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพะยา และสวนขนาด 4,600 ตารางเมตรของโครงการได้ ปัจจุบันได้มีลูกค้าให้ความสนใจจองแล้วถึง 30 ยู นิต คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาทเลย โดยตั้งเป้าว่าภายใน 3-4 เดือน ข้างหน้าหลังเปิดขาย ก็จะมียอดขายเพิ่ม 20-30% เนื่องจากไม่อยากเร่งรีบในการขายที่จะสามารถขยับ ราคาขายไปได้เรื่อยๆ เช่น ในโครงการแรก แมกโนเลีย วอเตอร์ฟร้อนท์ เรสซิเดนซ์ ที่เปิดขาย เริ่มต้น 2.7 แสนบาทต่อตารางเมตรค่ะ 

นอกจากนี้แล้ว บริษัทมีแผนนำโครงการ เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพ ไปทำการโรดโชว์ต่างประเทศ โดยในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค นี้ และมีแผนไปโรดโชว์ยังประเทศฮ่องกง และในปี 2559 นี้ มีแผนจะนำไปโรดโชว์ที่อิตาลีอีกด้วย โดยตั้งเป้ากลุ่มลูกค้ามาจาก ต่างชาติ 50% และคนไทยอีก 50% และในส่วนของโครงการแมกโนเลีย วอเตอร์ฟร้อนท์ เรสซิเดนซ์ ก็จะเป็นกลุ่มลูกค้าคน ไทยประมาณ 80% ของทั้งหมด

เราได้ทุ่มงบลงทุนเพิ่มอีก 30% เพื่อที่ให้เป็นโครงการที่พักอาศัยที่ดีที่สุดที่สามารถเทียบเท่าสากลได้ และหวังให้เป็นโครงการแลนด์มาร์ค ของกรุงเทพ เพราะด้วยการออกแบบ และการก่อสร้าง และบริการ รวมถึงการบริหารในการจัดการอาคารโดยแมนดาริน โอเรียลเต็ล นั้นผสมผสานมนต์เสน่ห์ของกลิ่นอาย ในความเป็นไทย ลูกค้ากลุ่มนี้รู้ว่าทรัพย์สินนั้นหายากแบบนี้อยู่เหนือความผันผวนของสภาวะ เศรษฐกิจ และยังมีมูลค่าสูงขึ้นตลอดเวลาอีกด้วย ทำให้ได้รับความสนใจในการจองล่วงหน้าตั้งแต่ยังไม่เคาะราคาขายถึง 30 ยูนิต แน่นอน 

ด้านนายธนวันต์ ชัยวัฒนะ ผู้เป็นกรรมการ ผู้จัดการ ในบริษัท ดิไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ก็ได้กล่าวว่า แม้ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ จะยังชะลอตัวอยู่ แต่ความต้องการในที่อยู่อาศัย ก็ยังมีอยู่มาก ทั้งนี้ผู้ประกอบการ คิดว่าควรปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบันมากขึ้น โดยเฉพาะการหาทำเลใหม่ๆ ผลิตสินค้าที่มีความตรงต่อความต้องการของผู้บริโภคให้มากขึ้น 

อย่างไรก็ตาม จากการที่ภาครัฐได้ออกมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ และเชื่อว่าจะมีผลที่ดีต่อตลาดโดยรวมด้วย ซึ่งจะทำให้ ผลของตลาดช่วงปลายปีนี้กลับมาดีขึ้นแน่นอน ขณะที่ตลาดอสังหาฯ ระดับไฮเอนด์นั้น แม้ที่ผ่านมาลูกค้าจะมีการชะลอการในการตัดสินใจซื้อไปตาม ภาวะเศรษฐกิจ แต่ก็ยังมีดีมานด์อยู่มาก หากในโครงการที่พัฒนาออกมาแล้วสามารถตอบสนองถึงความต้องการของลูกค้าได้ก็จะยังขายได้ดีแน่นอน 

จากมาตรการในการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐ ก็มั่นใจว่าจะมีผลดีต่อผู้บริโภคที่สนใจ เป็นอย่างมากโดยเฉพาะตลาดระดับ ราคา ไม่เกิน 3 ล้านบาท และในขณะที่ตลาดระดับบน หรือในระดับลักชัวร์รี่นี้นั้น ก็ยังเชื่อว่าจะไม่ได้รับผลอะไรจากมาตรการดังกล่าว มากนัก แต่ทั้งนี้ก็เชื่อว่าการที่ภาครัฐออกมาตรการ มาจะทำให้เป็นการปลุกกำลังซื้อของผู้บริโภค ขึ้นในช่วงนี้จนถึงต้นปีหน้าได้เป็น อย่างดี นายธนวันต์ ได้กล่าวไว้

นอกจากนี้ นางสาวทิพาภรณ์ ยังกล่าวอีกว่า บริษัทยังได้ร่วมกันกับกลุ่มบริษัท ควีนแลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่มากๆของประเทศจีน โดยร่วมกันในนาม แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เพื่อที่จะร่วมพัฒนาโครงการ "มิกซ์ ยูส" ที่บริเวณจอมเทียน แถวพัทยา บนเนื้อที่ 40 ไร่ ภายในโครงการจะประกอบไปด้วย โรงแรม และคอนโดมิเนียม และรวมถึงคอมมูนิตี้มอลล์ ที่มีมูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการวางคอนเซ็ปต์ต่างๆ โดยคาดว่าจะเปิดโครงการในปีหน้านี้ 

จากข้อมูลทั้งหมดจะเห็นได้ว่า แนวโน้มการลงทุนคอนโดนั้นก็ยังมีทีท่าว่าจะสูงขึ้นได้ในปีข้งหน้า แต่ที่กำลังจะมา ไม่ใช่คอนโดติดรถไฟฟ้า หรือคอนโดราคาถูก แต่กลับเป็นคอนโดสุดหรูหร่า ที่จะเข้ามาเพื่อหากำไร จึงยังมันใจได้ว่าธุรกิจคอนโดมิเดียมในอนาคตจัยังไม่ซบเซ่าแน่นอน แต่อาจมีการเปลี่ยนแผน ในการทางการตลาดโดยจะเล็กันไปที่คอนโดราคาสูงที่มีคุณภาพเพื่อเรียกความสนใจ เพราในปัจจุบันคอนโดติดรถไฟฟ้า หรือคอนโดราคาถูกนั้นมีมากเกินความต้องการ บริษัทส่วนใหญ่จึงเริ่มมองเห็นและเลิกผลิดหันมาทำคอนโดหรู กันแทน ในอนาคตอันใกล้นี้แน่นอน


บล็อกรีวิวคอนโดติดรถไฟฟ้าขอขอบคุณ ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น