วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เคหะ ลุยคอนโดติดรถไฟฟ้า 4 แห่งเริ่มต้น6แสน-1ล้าน

เคหะ ลุยคอนโดติดรถไฟฟ้า 4 แห่งเริ่มต้น6แสน-1ล้าน

คอนโดติดรถไฟฟ้า
บล็อก รีวิวคอนโดติดรถไฟฟ้า เช่าคอนโด ขอขอบคุณภาพจาก thaihomeonline.com


เดินหน้าไฟเขียวแผนลงทุนเคหะฯ โดยสร้างบ้านผู้มีรายได้น้อยทั่วไทย ทั้งการขายขาด และให้เช่าในราคาถูก 1,500-2,500 บาท/เดือน มีทั้งห้องชุด บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ ในปีหน้าเปิดมิติใหม่โดยการตะลุยคอนโดฯ 28-32 ตร.ม. ตามแนวรถไฟฟ้า 4 ทำเล เป็นคอนโดรถติดรถไฟฟ้า ประชานิเวศน์ 3-ร่มเกล้า-ลำลูกกา-บางปู โดยเจาะกลุ่มมนุษย์เงินเดือนและข้าราชการ จะเริ่มต้น 6 แสนถึง 1 ล้านบาทเท่านั้น

โดยนายสุภัคร ลดาวัลย์ ณ อยุธยา หรือรอง ผู้ว่าการ การเคหะแห่งชาติ (กคช.) ได้เปิดเผย ประชาชาติธุรกิจ ไว้ว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ย.2558 คณะกรรมการในการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือบอร์ดสภาพัฒน์ ได้มีมติอนุมัติกรอบการลงทุนและได้พัฒนาโครงการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อยจนถึง ระดับปานกลาง โดยตามแผนลงทุนของ กคช. ในปี 2558-2560 เป็นจำนวน 4 โครงการบนที่ดินเดิม และได้มีสินทรัพย์รอพัฒนา Sunk Cost ที่พร้อมเสนอคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. เพื่อ พิจารณาอนุมัติเป็นโครงการรายโครงการต่อไป

ซึ่งทั้ง 4 โครงการ ก็เป็นส่วนหนึ่งของแผน 10 ปีตามที่นโยบายของรัฐ เพื่อที่ให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีบ้านเป็นของตัวเอง ซึ่งการเคหะฯนั้นพร้อมเปิดขายและก่อสร้างได้ทันที หลังที่ ครม. ได้อนุมัติ โดยแหล่งเงินลงทุนมาจากทั้งหมด 3 ส่วนคือ ส่วนเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ส่วนเงินกู้ แลส่วนเงินรายได้ของ กคช. นั้นเอง

โดยใน 4 โครงการ จะประกอบด้วย 

1.โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุดที่ 1 ซึ่งจะเสนอ ครม. ภายในเดือน ธ.ค.นี้ และเริ่มสร้างปี 2559 และแล้วเสร็จปี 2561 โดยมี 43 โครงการทั่วประเทศ จำนวนทั้งหมด 11,559 หน่วย และเงินลงทุนรวม 10,000 ล้านบาท

โดยแยกเป็นโครงการเคหะชุมชนของผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางจำนวน 30 โครงการ หรือจำนวน 10,167 หน่วย โดยราคาเริ่มต้น 5.5-7 แสนบาท โดยเป็นอาคารชุด 3-5 ชั้น และบ้านแถว 2 ชั้น บ้านเดี่ยว 1-2 ชั้น และบ้านแฝด 2 ชั้น อาทิเช่น เคหะชุมชนบางขุนเทียน มิตรไมตรี หรือบางบ่อ บางปู และนครปฐม ชลบุรี ระยอง ปราจีนบุรี รวมถึงบุรีรัมย์ ศรีสะเกษ กาฬสินธุ์ พระนครศรีอยุธยา และในเชียงรากน้อย, บางปะอิน,โรจนะนอกจากยี้ก็ ลพบุรี พิษณุโลก ฉะเชิงเทรา เชียงใหม่ ตาก ยังต่ออีกที่สงขลา สุราษฎร์ธานี ตรัง และสระบุรี

โดยส่วนโครงการที่รองรับกลุ่มในระดับกลางขึ้นไป จะขายเริ่มต้น 1 ล้านบาทขึ้นไป โดยมี 13 โครงการ และจำนวน 1,392 หน่วย โดยมีอาคารพาณิชย์ 3-3.5 ชั้น เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น บ้านแถว 2 ชั้น และบ้านเดี่ยว 1-2 ชั้น และทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น อาทิ เช่น เคหะชุมชน จ.สมุทรสาคร (เศรษฐกิจ 2) และสมุทรปราการ กำแพงเพชร บุรีรัมย์ อุบลราชธานี อีกทั้งอุดรธานี ระยอง ภูเก็ต ขอนแก่น และกระบี่

2.โดยโครงการอาคารเช่าและเช่าคอนโดสำหรับผู้มีรายได้น้อยนั้น มี 32 โครงการทั่วประเทศ จำนวนรวม 10,107 หน่วย โดยมูลค่าลงทุน 5,070 ล้านบาท เช่น ที่ร่มเกล้า ที่บางพลี ที่ปทุมธานี ที่แหลมฉบัง อุบลราชธานี อุดรธานี ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา และโรจนะ เป็นต้น โดยเริ่มก่อสร้างปี 2559 แล้วเสร็จในปี 2563 ซึ่งเป็นอาคารชุดขนาด 28-32 ตารางเมตร และกำหนดระยะเวลาเช่าแบบปีต่อปี โดยอัตราค่าเช่าเฉลี่ยต่อเดือนในพื้นที่ต่างจังหวัดจะอยู่ที่ห้องละ 1,500 บาท ในทำเลกรุงเทพฯ 2,000-2,500 บาทต่อห้องค่ะ แต่ในระบบการเช่าคอนโดนั้นอาจจะมีหรือไม่มีจะมาบอกกันอีกที

สภาพัฒน์ได้เห็นชอบแล้ว โดยให้การเคหะฯได้ทบทวนรายละเอียดอีกเล็กน้อย ในเรื่องการคืนทุนให้เร็วขึ้นอีก โดยจากที่เสนอไป 12 ปี ถ้าทุกอย่างเสร็จก็พร้อมจะเสนอ ครม.เพื่ออนุมัติทันที ส่วนในอาคารชุดให้เช่า 6 พื้นที่และเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ตาก มุกดาหาร สระแก้ว และสงขลา ตราด และหนองคายนั้น ยังรอเจรจากรมธนารักษ์เรื่องที่ดินอยู่ในตอนนี้

3.ในโครงการคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าและในระบบขนส่งทางราง ได้มีแผนลงทุน 12,000 หน่วย ที่มีขนาดพื้นที่ 28-32 ตารางเมตร และเป็นอาคารสูง 8-20 ชั้น ใน 4 ทำเลบนที่ดินเดิมของคณะ กคช. ซึ่งได้แก่ 1.ประชานิเวศน์ 3 พื้นที่ 8 ไร่ บริเวณตรงข้ามโรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์ โดยรองรับรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และ2.ลำลูกกา คลอง 2 ติดถนนลำลูกกา บนพื้นที่ 25-28 ไร่ รองรับรถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) และ3.ร่มเกล้า บนพื้นที่ 1,000 ไร่ โดยใกล้รถไฟฟ้า 2 สายคือ แอร์พอร์ตลิงก์กับสายสีส้ม (หรือศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) และที่ 4.บางปู บนพื้นที่กว่า 30 ไร่ โดยรับรถไฟฟ้าสายสีเขียว และต่อขยาย (สมุทรปราการ-บางปู) นั้นเอง

คอนโดติดรถไฟฟ้า การเคหะฯจะทำการลงทุนสร้างและขายเอง โดยเป็นกรอบแนวคิดใหม่ โดยจะเร่งออกแบบรองรับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่วัยโดยเริ่มต้นทำงาน และยังมีรายได้ขนาดปานกลาง มีนิติบุคคลบริหารโครงการโดยตามกฎหมายควบคุมอาคาร ซึ่งก็เป็นโมเดลใหม่ ต่างจากเดิมที่เคยพัฒนา ในราคาขายเริ่มต้น 6 แสนบาทถึง 1 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งขึ้นอยู่กับทำเล และขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาโครงการ โดยจะแล้วเสร็จ ธ.ค.นี้ และจะเปิดขายปลายปีหน้า

และ 4.ในโครงการฟื้นฟูแฟลตดินแดง โดยสภาพัฒน์ก็เห็นด้วยกับแผนแม่บทโครงการ แต่ให้ กคช.ได้ทำรายละเอียดการพัฒนามาให้ชัดเจน ทั้งขนาดพื้นที่และอื่นๆ เพราะยังมีผู้อยู่อาศัยเดิมที่ไม่เห็นด้วยในเรื่องอัตราค่าเช่า 1,000-1,500 บาท/เดือน/ห้อง และทั้งต้องการห้องขนาดใหญ่ขึ้นจาก 33 ตารางเมตร ให้เป็นขนาดกว่า 40 ตารางเมตรนั้นเอง

ทั้งนี้ ตามแผนแม่บทของ กคช.จะใช้เวลาพัฒนารวม 8 ปี เริ่มปี 2559 และจะพัฒนาเป็นอาคารสูง 25 ชั้น และ 35 ชั้น โดยจำนวนรวม 20,292 ยูนิต โดยสร้างขึ้นเพื่อรองรับกลุ่ม ผู้ที่อยู่อาศัยเดิมเป็นลำดับแรก จำนวนทั้งหมด 6,000 ยูนิต ในปี 2559 จะสร้างบริเวณ หัวมุมสามเหลี่ยมดินแดง ในพื้นที่ 2 ไร่ อาคารสูง 25 ชั้น จำนวนรวม 334 ยูนิต โดยรองรับผู้อยู่อาศัยเดิม จำนวนรวม 5 อาคาร คือ อาคารที่ 18-20 และอาคารที่ 21-22 และผู้อยู่อาศัยใหม่ในบางส่วนนั้นเอง

ในแผนของระยะเร่งด่วน 3 ปีแรก (2559-2561) ก็จะพัฒนาจำนวน 515,268 ครัวเรือน ซึ่งเป็นเงินกว่า 95,596 ล้านบาท และเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย 87,589 หน่วย ก็เป็นอาคารเช่า 10,107 หน่วย โดยฟื้นฟูแฟลตดินแดง 1,581 หน่วย ก็จะวางศิลาฤกษ์เดือน เม.ย. 2559, ในอาคารเช่าเขตเศรษฐกิจพิเศษ จ.ตาก มุกดาหาร สระแก้ว สงขลา ตราด และหนองคาย 8,000 หน่วย และอาคารเช่าซื้อ 67,901 หน่วย เช่น ในแนวรถไฟฟ้ากรุงเทพฯและปริมณฑล 8,000 หน่วย และในที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยรองรับชุมชนริมคลองอีก 11,044 ครัวเรือน

ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นการช่วยเหลือคนมีมีฐานะปลานกลางให้มีบ้านเป็นของตัวเอง นอกจากนี้ก็ยังเห็นโครงการที่น่าสนใจคือ คอนโดติดรถไฟฟ้า ที่มีถึง 4 โครงการ โดยจะทำการปล่อยขายเป็นหลัก ซึ่งอาจจะมีการเช่าคอนโดกับทางเคหะ เองโดยจะเร่งพัฒนาเพื่อรอรับผู้ที่จะมาอยู่อาศัยโดยจะทำการยื่นเรื่องในไม่นานนี้ โดยอ าจจะมีการเช่าคอนโดอย่างไรหรือปล่อยขายอย่างไรเราจะมาบอกเล่ากันอีกที

บล็อกรีวิวคอนโดติดรถไฟฟ้า เช่าคอนโด ขอขอบคุณเนื้อหาบางส่วนจาก ประชาชาติธุรกิจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น