โครงการบ้านต่างๆ ทาวน์โฮม และคอนโดติดรถไฟฟ้า กำลังจะบูมใน กรุงเทพฯ ตอนเหนือ
บล็อกรีวิว คอนโดติดรถไฟฟ้า ขอขอบคุณภาพจาก thaibigplaza.com/ |
นายสุรเชษฐ กองชีพ หรือรองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล แห่งประเทศไทย จำกัด ได้เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ในปัจจุบันพื้นที่กรุงเทพฯ ในตอนเหนือและจังหวัดปทุมธานีนั้น หรือบริเวณคลอง 1-6 ได้มีโครงการที่อยู่อาศัยที่เปิดขาย อยู่ทั้งหมดถึง 67 โครงการ แยกได้เป็นโครงการบ้านจัดสรร 55 โครงการ หรือจำนวน 12,437 หน่วย และเป็นบ้านเดี่ยวมากที่สุดจำนวนมากถึง 5,028 หน่วย โดยคิดเป็น 81% ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวที่ขายในระดับราคามากกว่า 3 ล้านบาทขึ้นไปอีก ทาวน์โฮมที่ได้มีจำนวนมากที่สุด คือ ราคา ที่ขายต่ำกว่า 2 ล้านบาทลงมานั้น มีสูงถึง 83% จากจำนวนของทาวน์โฮมที่เปิดขายอยู่ในปัจจุบันอยู่ 4,520 หน่วย ขณะที่อัตราการขาย นั้้นก็สูงโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 66%
ส่วนของในโครงการคอนโดมิเนียมนั้น ก็ยังพบอีกว่ามีโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายอยู่ทั้งหมด 12 โครงการ และจำนวนรวมทั้งหมด 18,671 หน่วย และยังเป็นคอนโดมิเนียมที่มีราคาขายต่ำกว่า 1 ล้านบาท มากถึง 86% เลย เพราะมีโครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ ที่ได้มีจำนวนหน่วยมากกว่า 1 หมื่นหน่วยอยู่ โดยเปิดขายในบริเวณนี้ด้วย แต่สำหรับบ้านเดี่ยวในบริเวณนี้ก็ได้รับความนิยมค่อนข้างมากเลย เพราะมี อัตราการขายประมาณ 64% โดยเฉพาะในโครงการที่มีราคาขายเกินกว่า 2 ล้านบาทขึ้นไปด้วย โดยมีหน่วยที่ขายไปแล้วมากกว่า 3.2 พัน หน่วยทีเดียว อันดับรองลงไปคือก็คือทาวน์โฮมที่มีอัตราการขายอยู่ที่ประมาณ 62% คอนโดมิเนียมนั้นกลับมีอัตราการขายที่ค่อนข้างต่ำคืออยู๋ที่ประมาณ 40% เพราะในโครงการขนาดใหญ่จะต้องใช้เวลาในการขายมากทีเดียว
โดยได้สอดคล้องกับ นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา หรือกรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) ที่ได้กล่าวถึงศักยภาพ ในพื้นที่กรุงเทพฯตอนเหนือและจังหวัดปทุมธานีไว้ว่า เป็นพื้นที่ที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก เนื่องจากในภาครัฐและในภาคเอกชน ได้มีแผนการลงทุนที่ชัดเจนมาก โดยในภาครัฐจะมีการลงทุนพัฒนาคือโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น ในการพัฒนาระบบราง ไม่ว่าจะเป็นการ ในการพัฒนาระบบรถไฟรางคู่ หรือรถไฟความเร็วปานกลางและรถไฟความเร็วสูง ที่การก่อ สร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง หรือบางซื่อ รังสิต และสายสีแดงในส่วนต่อขยายรังสิตธรรมศาสตร์ โดยโครงการรถโดยสารปรับอากาศพิเศษ (บีอาร์ที) โซนรังสิตอีกด้วย จึงทำให้โครงการคอนโดในบริเวณนี้ ในอนาคตจะเป็ คอนโดติดรถไฟฟ้านั้นเอง
โครงการมอเตอร์เวย์ ในบางปะอินโคราช จะช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางสู่ในส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้เป็นอย่างดีแน่นอน โดยโครงการปรับปรุงและขยายสนามบินดอนเมืองนั้น ที่คาดว่าจะสามารถเปิดให้เราได้ใช้บริการได้ในปลายปี 2558 หรือต้นปี 2559 ซึ่งก็จะเป็น ศูนย์กลางของการเดินทางด้วยสายการบินโลว์คอสต์ที่ดี ที่ในปัจจุบันได้มีผู้โดยสารใช้บริการจำนวนมาก ขณะที่ในภาคเอกชนเองก็มี แผนที่ลงทุนพัฒนาโครงการก่อสร้างศูนย์การค้าแห่งใหม่ขึ้นอีก ได้แก่ เซ็นทรัลเอ็ม เมกา รังสิต และฟิวเจอร์ซิตี้ เป็นต้น
ในปัจจุบันบริษัทมีโครงการบ้านในโซนรังสิต-นครนายก 2 โครงการ นั้น ได้แก่ โครงการสัมมากรรังสิต ที่คลอง 2 เหลือเพียง กว่า 20 หน่วยเท่านั้น ราคาขายหน่วยละ 4-5 ล้านบาททีเดียว โดยรวมมูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท ที่มีจุดเด่นอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก ที่ติดถนนใหญ่ ใกล้สาธารณูปโภคต่างๆ และศูนย์การค้าเพียวเพลส และ โครงการสัมมากร รังสิต ที่คลอง 7 จำนวน 400 หน่วย ที่ระดับราคาเฉลี่ย 5 ล้านบาท โดยมูลค่าประมาณ 2.1 พันล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 โครงการนี้จะช่วยสร้างรายได้ให้กับบริษัทอย่างมากค่ะ ด้าน นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ หรือกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลล อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN ได้กล่าวว่า ปัจจุบันนี้บริษัทมียอดขายจากโครงการลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต-คลอง 1 เฟส 1 ที่ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จและจะโอนช่วงปลายปี 2558 จำนวนกว่า 3 พันหน่วย มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาทเลย และจะเปิดขายเฟส2 นี้อย่างเป็นทางการช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ซึ่งในปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 1 พันหน่วยแล้ว ขณะที่การก่อสร้างเฟส 2 นี้ได้มีความคืบหน้าอย่างมาก โดยมีอาคารก่อสร้างแล้วเสร็จจำนวน 10 อาคาร จากทั้งหมด 18 อาคาร ที่เหลือ 8 อาคารจะอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยในส่วนของเฟส 2 นี้ ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและคาดว่าจะส่งมอบได้ในไตรมาส 1 ปี 2559 นี้
ราคาขายที่เริ่มต้นอยู่ที่ 5.65 แสนบาทต่อหน่วย โดยถือเป็นคอนโดมิเนียมที่มีราคาต่ำที่สุดในกรุงเทพฯ ขณะที่โครงการ ลุมพินี ทาวน์ชิป นั้นโดดเด่นในแง่ชุมชนเมืองน่าอยู่ และสิ่งอำนวยความสะดวกครแล้วบ และคอมมิวนิตี มอลล์ 'Market Place' ในด้านหน้า โครงการภายใต้การบริหารงานจากผู้ชำนาญการคือ บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (SF)อีกด้วย
บล็อก รีวิว คอนโดติดรถไฟฟ้า ขอขอบคุณเนื้อหาบางส่วนจาก ฐานเศรษฐกิจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น