ขอบคุณภาพจาก http://www.prosacc.com/ |
ภาษีเป็นสิ่งที่จะทำให้ประเทศขับเคลื่อน โดยทุกวันนี้เรานั้นก็เสียภาษีต่างๆ ทมากมาย บางคนอาจยังไม่รู้ว่าเราเสียภาษีอะไรบ้าง วันนี้ รีวิว คอนโดติดรถไฟฟ้า บ้านทาวน์เฮ้าส์ จึงได้ไปหาข้อมูลต่างๆ เพื่อมาบอกทุกคนได้รู้กันว่า ตอนนี้เราได้เสียภาษีอยู่แทบจะทุกวันนั้นมีอะไรบ้างมาดูกันเลย
สิ่งที่ 1. การทำมาหากิน เราต้องเสียภาษีเงินได้
ไม่ว่าจะทำการประกอบอาชีพในนามนิติบุคคลหรือบุคคล ล้วนแล้วแต่ต้องเสีย ภาษีเงินได้ ทั้งหมด สำหรับคนที่ทำงานเป็นลูกจ้างทั่วไปนั้นจะจัดอยู่ในประเภทการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่หากมีรายได้เป็นเงินเกิน 50,000 บาท (ยังไม่สมรส) หรือมากกว่า 100,000 บาท (สมรสแล้ว)ในช่วงปีนั้นๆ จะต้องยื่นแบบ ภาษีฯ ไม่ว่าเราจะมีภาษีที่ต้องจ่ายชำระหรือไม่ก็ตามแต่ และสำหรับผู้ที่เสียภาษี มากกว่า 3,000 บาท สามารถขอแบ่งจ่ายชำระได้ โดยไม่เกิน 3 งวด และไม่ต้องเสียเบี้ยปรับ แต่ถ้าหากเราลืมจ่ายภาษี จนเลยมันกำหนดการจ่ายแล้ว เราจะต้องเสียเงินเพิ่มร้อยละ 1.5 ต่อเดือนของกำหนดการที่จะต้องจ่าย
สิ่งที่ 2. ถ้าเรามีรถขับ เราต้องเสียภาษีรถยนต์
ซึ่งจะเสียเป็นประจำทุกปี นั่นคือที่เหล่าผู้เป็นเจ้าของรถทุกๆประเภท จะดำเนินการที่ พรบ. และชำระภาษีรถยนต์ โดย พ.ร.บ. เหมือนเป็นการทำประกันภัยภาคบังคับให้เรา ที่จะคุ้มครองเราเมื่อประสบภัยจากรถ ทางกรมการขนส่งจะต้องใช้ประกอบการต่อภาษีรถยนต์ประจำปี และอัตราภาษีรถยนต์นั้น จะต่างกันไปตามประเภทรถ เช่น จัดเก็บตามความจุกระบอกสูบ (ซีซี) จากรถยนต์ ,จัดเก็บเป็นรายคัน ,จัดเก็บตามน้ำหนักเป็นต้น
สิ่งที่ 3. การทานร้านอาหาร จะต้องเสียมูลค่าเพิ่ม หรืท หรือที่เรียกว่า VAT นั้นเอง จะอยู่ที่ 7%
บางคนคงพบเจอเหตุการณ์ในลักษณะนี้แล้ว รู้สึกตกใจ เพราะราคาอาหารมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากเราลืมคำนึงถึง vat 7% นั้นเอง โดยภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax : VAT) ก็คือ ภาษีที่จัดเก็บจากมูลค่าของสินค้านั้นหรือบริการของแต่ละขั้นตอนในการผลิตการจำหน่ายของสินค้าหรือบริการนั้นเอง โดยผู้ประกอบกิจการเป็นผู้เรียกเก็บกับลูกค้า และจะนำภาษีมูลค่าเพิ่มไปชำระกรมสรรพากรเอง คือผู้บริการจะรับทำเองโดยจะลดภาระให้ผู้บริโภค นั้นเอง ซึ่งเป็นภาษีทางอ้อมที่คนไทยที่เป็นผู้บริโภคจำต้องจ่ายไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตามแต่
สิ่งที่ 4. ถ้ามีเงินฝากธนาคาร จะต้องเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก
ในหลายๆคนอาจจะละเลยภาษีส่วนนี้ไป เพราะในปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยของเงินฝากจะค่อนข้างต่ำ (โดยออมทรัพย์จะอยู่ที่ 0.125%-1% ,ฝากประจำจะอยู่ที่ 0.8-2.5%) ซึ่งดอกเบี้ยต่อปีที่เราได้รับนั้นถ้าหากรวมกันทุกธนาคารแล้วไม่ถึง 20,000 บาทต่อปี เราจะอยู่ในข้อยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีได้ (ส่วนคนที่เกิน 20,000 บาท จะต้องถูกหักภาษี 15%) สำหรับคนที่ได้รับข้อยกเว้นดังกล่าวนั้นยังรวมไปถึงกรณีคนที่มีเงินฝากประจำ คนที่มีเงินฝากเผื่อเรียกธ.ออมสินและธกส. , คนที่มีเงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์, คนที่มีเงินฝากประจำ 2ปีขึ้นไป ไม่เกิน 600,000 บาท และคนที่มีเงินฝากประจำมากกว่า 1ปี อายุ 55ปีขึ้นไป ที่ได้รับดอกเบี้ยไม่เกิน 30,000บาท เป็นต้น
สิ่งที่ 5. การลงทุนตลาดหุ้น ต้องเสียภาษีของเงินปันผลด้วย
ถึงแม้ว่ากำไรที่ได้จากการโอนหุ้นหรือการขายนั้นจะได้รับสิทธิยกเว้นโดยกฎหมาย แต่ถ้าหากสำหรับ เงินปันผลจะโดนหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% ของเงินปันผลทั้งหมด แต่สำหรับผู้เสียภาษีเงินได้ อยู่แล้วสามารถใช้สิทธิในการขอคืนภาษีได้ ที่เรียกว่า เครดิตภาษีเงินปันผลนั้นเอง ซึ่งเป็นการขอคืนเงินภาษีจากการที่เก็บซ่ำซ้อน เนื่องจากเงินปันผลนั้นเป็นเงินที่บริษัทจ่ายให้กับผู้ถือหุ้น เป็นเงินที่เป็นกำไรสุทธิที่เราได้หักจ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลไปแล้ว เมื่อผู้ถือหุ้นได้รับเงินปันผลก้อนนั้น จะถือว่าเป็นเงินได้พึงประเมิน จะจำเป็นต้องนำมาคำนวณเพื่อจะเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีกครั้งนึ่ง จึงกลายเป็นว่าเรานั้นเสียภาษีซ้ำซ้อนจากกำไรก้อนเดียวกันนั้นเอง
สิ่งที่ 6. การหารายได้เสริม หรือขายสินค้าทางเน็ต ต้องเสียภาษีเงินได้ (ถ้าเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี เราต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม)
อธิบายง่ายๆได้ว่า เมื่อไหร่ที่เรามีรายได้ ย่อมต้องเสียเพิ่ม ภาษีเงินได้นั้น กรณีขายที่เราในนามบุคคลจะเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ถ้าหากเป็นนามบริษัทจะเราจะต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล แต่สำหรับผู้ขายสินค้าออนไลน์ที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ก็จะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย ตือเราต้องไปจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และต้องบวก vat 7% เพิ่มกับราคาสินค้าที่ขายนั้นๆ ด้วย
สิ่งที่ 7. ผู้ที่ถูกรางวัลชิงโชค จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายทันที (คือการเสียภาษีเงินได้ในปีภาษีนั้น)
เงินรางวัลสำหรับผู้โชคดีที่จะได้รับนั้น จะต้องถูกหักภาษีทันที่ ณ ที่จ่าย 5% ของมูลค่าสินค้าทั้งหมดหรือเงินรางวัลทั้งหมด และเมื่อครบปี (เดือนมีนาคม) เงินรางวัลเหล่านี้จะถูกรวมเข้ากับเงินที่ได้พึงประเมินอื่นๆ เพื่อจะนำไปคำนวณหาภาษีเงินได้ ต่อไป ทั้งนี้ภ้าหากผู้โชคดีรายนั้น มีผลรวมของเงินได้พึงประเมินรวมกับเงินรางวัล ยังไม่ถึง 150,000 บาทต่อปี จะได้รับการยกเว้นภาษี โดยจะไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ ดังนั้น ผู้โชคดีรายนั้นจะสามารถขอคืนภาษี 5% ที่ได้ถูกหัก ณ ตอนที่รับตอนแรก ดังกล่าวได้
สิ่งที่ 8. ขายบ้านขายคอนโด ขายอสังหาต่างๆ จะต้องเสียภาษีจากการขายอสังหา
เมื่อขายบ้านขาย "คอนโดติดรถไฟฟ้า" "คอนโดราคาถูก" ขายอสังหาต่างๆ จะต้องเสีย ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย โดยจะพิจารณาจากราคาประเมินบวกกับจำนวนปีที่ถือครอง นอกจากนี้ยังมีค่าอากรแสตมป์ 0.5% ที่ผู้ขายจะต้องเสียในขั้นตอนที่จะจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ , ค่าธรรมเนียมในการโอนอีก 2% ในทุกๆครั้งที่ได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ และ หากกรณีผู้ขายครอบครองอสังหาริมทรัพย์น้อยกว่า 5 ปี ก็จะต้องเสีย ภาษีธุรกิจเฉพาะอีก 3.3% จากราคาประเมินหรือราคาตลาดที่สูงกว่านั้นเอง
บล็อก รีวิว คอนโดใกล้รถไฟฟ้า บ้านทาวน์เฮ้าส์ ของขอบคุณเนื้อหาบางส่วนจาก terrabkk.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น